ยามฝั่งสหรัฐฯ สกัดเรือผู้อพยพครั้งใหญ่ บรรทุกชาวเฮติ 396 ชีวิตลอยลำใกล้บาฮามาส
ยามฝั่งสหรัฐฯ สกัดเรือผู้อพยพลำใหญ่บรรทุกชาวเฮติ 396 คน ล่องเรืออยู่นอกชายฝั่งใกล้กับบาฮามาส นับเป็นหนึ่งในการลักลอบค้ามนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดในน่านน้ำแถบตอนใต้ของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. สำนักข่าวเอบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯ เข้าสกัดเรือผู้อพยพลำใหญ่ที่บรรทุกชาวเฮติ 396 คน ล่องเรือไปถึงบริเวณนอกชายฝั่งเกาะเคย์ ซาล ใกล้กับประเทศบาฮามาส ซึ่งอยู่ระหว่างรัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ กับประเทศคิวบา นับเป็นหนึ่งในการลักลอบค้ามนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดในน่านน้ำแถบตอนใต้ของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่บาฮามาส เปิดเผยว่า ผู้อพยพชาวเฮติทั้งหมดถูกจับกุมตัวได้ และถูกส่งไปสอบสวนที่เกาะอินากัว ของบาฮามาส และเตรียมดำเนินการส่งกลับตามกระบวนการต่อไป
ทางด้านนิโคล โกรลล์ โฆษกหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เรือลำนี้มีความยาว 50 ฟุต และมีคนเบียดเสียดกันอยู่บนเรือมากถึง 396 คน นับเป็นการบรรทุกเกินพิกัด และเป็นการเดินทางที่ไม่ปลอดภัยเสี่ยงอันตรายอย่างมาก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวเฮติมักจะอพยพหนีสถานการณ์รุนแรงในประเทศ จากการก่อกวนของแก๊งอาชญากร และความไร้เสถียรภาพทางการเมือง โดยส่วนใหญ่มักจะหาทางลงเรือมายังประเทศบาฮามาส ด้วยความหวังที่ว่าจะได้เดินทางไปต่อที่รัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ แต่ส่วนใหญ่การเดินทางทางเรือมักเสี่ยงอันตราย ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตเพราะเรืออับปางกลางทะเล
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เพิ่งประกาศขยายขอบเขตการใช้นโยบายสกัดผู้ลักลอบอพยพข้ามพรมแดนที่ออกมาบังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยล่าสุดจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐ สามารถขับไล่ผู้อพยพจากคิวบา นิการากัว เวเนซุเอลา และเฮติ ที่ถูกจับบริเวณพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกกลับประเทศได้ แต่ในขณะเดียวกันนั้น จะอนุญาตให้ผู้อพยพที่มาจาก 4 ประเทศนี้ ราว 30,000 คนต่อเดือน สามารถเดินทางเข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านทางเครื่องบิน โดยต้องมีผู้รับรองทางการเงิน และผ่านการตรวจสอบประวัติทางออนไลน์
แนะนำข่าวต่างประเทศเพิ่มเติม : ศรีลังกาไปต่อไม่ไหว ผิดนัดชำระหนี้